เอาล่ะ มาถึง Part สุดท้ายของการไปสัมมนาครั้งนี้ ซึ่งใน Part นี้ผมจะมาเขียนถึงประสบการณ์ในภาคทำนาย โดยในครึ่งบ่ายเกือบทั้งหมดจะเป็นการดูตัวอย่างการทำนาย หรือพูดง่ายๆคือตัวอย่างดวงนั้นเอง ประมาณ 50 ดวงได้ และก็มีบททดสอบนิดๆหน่อยๆ เพิ่มให้ลองทดสอบสิ่งที่ได้เรียนมา
โดยหลักๆแล้ว หลักการที่สำคัญที่เขาได้สอนมานั้น คือให้พิจารณาจากตำแหน่ง เลข และธาตุ ตามลำดับ เพียงสามสิ่งนี้ก็สามารถทำนายได้ระดับหนึ่งแล้ว
สิ่งที่น่าสนใจในส่วนนี้คือ
- การทำนายในบางครั้ง ไม่ได้ยึดตำแหน่งเป็นหลัก จะยึดจากความหมายของไพ่ที่เด่นชัดขึ้นมาก่อนเสมอ ทำให้รู้สึกสับสนอยู่บ้าง แต่โดยปกติตัวเองก็ใช้วิธีนี้อยู่แล้ว แต่แค่ขัดกับหลักที่เขาให้ในตอนต้นไปบ้าง
- เรื่องจำนวนไพ่ดีและไพ่ไม่ดี ตรงนี้ทำให้สับสนพอสมควร เช่น
- หากพบไพ่บางใบที่มีความหมายในเชิงลบเพียงใบเดียว อาจจะทำให้ไพ่ดีๆลดความหมายลงไปหมด เช่น Page of Sword ที่หมายถึงการพบเจออุปสรรคหรือแม้กระทั่ง King of Pentacle หากเจ้าชะตาเป็นหญิง
- แต่บางดวง มีไพ่แย่ๆเหมือนกัน เช่น Tower แต่กลับไม่ค่อยส่งผลกระทบเท่าไหร่ เพราะว่าไพ่ดีเยอะ
กว่า - แต่สุดท้ายแล้วในความคิดของตัวเองคือ ต้องดูไพ่รอบๆให้ทั่วก่อน การฟันธงลงไปในใบใดใบหนึ่ง มันอาจจะดูรีบร้อนเกินไปหน่อย เพราะน่าจะมีอะไรซ่อนอยู่ในไพ่ใบอื่นๆ
- การทำนายออกจะเป็นแนวบอกอนาคต และฟันธง เช่น เจ้าชะตาถามว่า จะได้งานไหม คำตอบจากไพ่ คือได้ ซึ่งสิ่งที่ตัวเองคาดหวังคือ อยากได้การหาสาเหตุที่เกิดขึ้นจริงๆมากกว่า แต่อย่างไรก็ตามส่วนตัวคิดว่า ถ้าทำนายแบบนี้ออกไปได้แล้ว การหาสาเหตุน่าจะตามมาอีกที (แต่ส่วนใหญ่คนที่เข้ามาดูก็อยากได้คำตอบแนวนี้เช่นกัน)
- ระบบเลขและธาตุส่วนใหญ่จะใช้ในการแปลความหมายของไพ่ มากกว่าการหาความสัมพันธ์ระหว่างไพ่ เช่น เช่น เลข 5 ธาตุลม แสดงความความล้มเหลวทางความคิด ปัญหา หรือ Hangman คือการสมมติ การปลอมแปลงเอกสาร หรือ 2 ธาตุดิน คือการมีเอกสารสำรอง?? ซึ่งไพ่แต่ละใบค่อนข้างจะมีความหมายอย่างโดดๆ แทบไม่ได้แลกเปลี่ยนความหมายกันในเชิง ตำแหน่ง เลข ธาตุ หรือราศีและดาว
- Spread ที่ใช้งานมีหลักการที่น่าสนใจ คือ ให้ใช้ตามความซับซ้อนของคำถาม เช่น ถ้าคำถามไม่ยากมากนัก ก็ใช้แบบใบเดียว หรือ 3 ใบ ถ้าเป็นเรื่องยุ่งยากหรือจริงจังก็ให้ใช้ 10 ใบ และ Celtic cross ก็เป็นแบบที่ไม่เคยใช้มาก่อน รวมถึงความหมายในแต่ละตำแหน่งก็พึ่งได้รู้ความหมายและวิธีใช้งานของมันจริงๆ (ซึ่งต่างจากตำราต่างประเทศมากๆ)
สรุปสุดท้ายแล้ว การเข้าสัมมนาในครั้งนี้ ก็ได้เปิดมุมมองอะไรหลายๆอย่าง โดยเฉพาะความรู้เรื่อง Numerology ซึ่งแม้ว่าจะขัดกับสิ่งที่รู้มาบ้าง แต่ก็ได้ไอเดียใหม่ๆในอีกมุมมองหนึ่ง นอกจากนี้ยังได้ไพ่ที่ผ่านการปลุกเสกมาเรียบร้อยแล้วเป็นของที่ระลึกอีกด้วย (แต่คงไม่ได้ใช่หรอกครับ 5555)
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหากประเมินตามความคาดหวังแล้ว คงยังไม่ได้ตามคาดเท่าที่ควร โดยเฉพาะเรื่องการเชื่อมโยงไพ่ในการทำนาย ซึ่งคาดหวังว่าจะมีการใช้ระบบธาตุ ระบบตัวเลข ระบบราศีและดาว มาก แต่กลับกลายเป็นว่าแทบไม่ได้ใช้เลย และอาจจะป็นเรื่องของเวลา เนื้อหาจึ่งค่อนข้างอัดแน่นและไม่ได้ถามอะไรเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตามก็ขอขอบคุณอาจารย์มากที่ได้แบ่งปันและมอบความรู้ในอีกมุมมองหนึ่งที่ไม่เคยได้เรียนรู้จากที่ไหน หวังว่าประสบการณ์ในครั้งนี้จะทำให้ตัวผมเองสามารถนำไปประยุกต์ใช้ และต่อยอดได้ต่อไป ขอบคุณมากครับ
ปล. ก่อนไปสัมมนาในครั้งนี้ได้หยิบไพ่ขึ้นมาใบหนึ่ง ซึ่งถามว่า จะได้อะไรจากการสัมมนาในครั้ง คำตอบก็เป็นไปดังภาพด้านล่างครับ
Part อื่นๆ
Pingback: Seminar : ZTAROT Part 1/3 – Lunar Magus
Pingback: Seminar : ZTAROT Part 2 – Lunar Magus